แกง ฮังเล คือ

แพ-ผงซกฟอก-อาการ

แกงฮังเล เมนูอาหารพื้นเมืองของคนภาคเหนือ แต่เป็นการจัดแบบฉบับคนบ้านทุ่งอยู่ภาคกลาง ที่ยังคงเอกลักษณ์แกงฮังเลของล้านนา คือ หมูนุ่ม เปรี้ยวนำ ( แกงฮังเล ให้รสเปรี้ยวเด่นชัดมากกว่ารสหวานนะคะ หลายคนเข้าใจผิดคิดว่าแกงฮังเลต้องหวาน) สูตรนี้ถูกปากสมาชิกในบ้านมากค่ะ หากใครสนใจมาดู วิธีทำแกงฮังเล กันเล้ย วัตถุดิบ หมูสามชั้น 1 กิโลกรัม พริกแกงฮังเล 120 กรัม มะม่วงเปรี้ยวหั่นซอย 1 ผล ขิงซอย 100 กรัม หอมแดง 10 หัว กระเทียมแกะกลีบลอกเปลือก 3 หัว ถั่วลิสงคั่ว (ไม่ติดเปลือก) 100 กรัม น้ำตาลมะพร้าว 4 ช้อนโต๊ะ เกลือ 2 ช้อนชา วิธีทำแกงฮังเล 1. นำหมูสามชั้นลงไปผัดในกระทะโดยไม่ต้องใส่น้ำมันใด ๆ ค่ะ พอหมูมีน้ำมันออก รอบนอกของหมูเริ่มสุกเหลืองจึงใส่พริกแกงลงไปผัดให้ทั่ว เติมน้ำลงไปราว 500 มิลลิลิตร (1 ใน 3 ของน้ำเปล่าขวดใหญ่) คนให้เข้ากันดี ตั้งไฟต่อไปจนเดือดค่ะ 2. เมื่อเดือดแล้วหรี่ไฟ จากนี้ให้ใช้ไฟอ่อน ใส่น้ำตาลมะพร้าวลงไป ที่บ้านใช้น้ำตาลมะพร้าวน้ำหอมค่ะ ใครไม่มีใช้น้ำตาลปี๊ปแทนได้นะคะ ส่วนทางเหนือใช้น้ำตาลอ้อย แต่ละชนิดให้รสหวานแตกต่างกัน เลือกตามชอบและความสะดวกได้เลยค่ะ ตามด้วยหอมและกระเทียม 3. จากนั้นใส่มะม่วงซอยลงไปค่ะ ทางเหนือใช้มะขามเปียก บางท้องถิ่นใช้ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว เช่น กระท้อน แต่บ้านเรามะม่วงเยอะเลยขอใช้มะม่วงเปรี้ยวแทนค่ะ หาง่าย เนื้อนี่ละลายไปกับน้ำแกงจนให้รสชาติดีเลยล่ะ 4.

  1. แกงฮังเล
  2. แกงฮังเล หรือ แกงฮินเล อาหารเหนือที่ได้รับอิทธิพลมาจากประเทศพม่า
  3. แกงฮังเล - Signature Dish
  4. แกงฮังเล | foodsofthailand

แกงฮังเล

5 x 1. 5 นิ้ว โขลกเครื่องแกงรวมกันให้ละเอียด ผสมเครื่องแกง ผงฮังเล สับปะรด และเนื้อหมู คลุกเคล้าให้เข้ากัน หมักไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง นำหมูที่หมักไว้มาตั้งไฟ ใส่น้ำเล็กน้อย ผัดจนกว่าหมูตึงตัว เคี่ยวต่อ คอยเติมน้ำเรื่อยๆ จนหมูนิ่มได้ที่ ใส่น้ำอ้อยป่น น้ำมะขามเปียก ใส่กระเทียม และขิงซอย คนให้เข้ากัน เคี่ยวต่อ ใส่ถั่วลิสงคั่ว พอเดือดสักพัก ปิดไฟ เคล็ดลับการปรุง/เลือกส่วนผสม การคั่วเครื่องแกง ใช้ไฟปานกลาง ใช้เนื้อกระท้อนแทนมะขามเปียกได้ ให้รสชาติเปรี้ยว และมีกลิ่นหอม หมูสามชั้น ควรเลือกที่มันไม่หนาเกินไป หรือเลือกใช้ซี่โครงหมูแทน ก็ได้ อ้างอิง: รัตนา พรหมพิชัย. (2542). แกงฮังเล. ใน สารานุกรมวัฒนธรรมไทย ภาคเหนือ(เล่ม 1, หน้า 490). กรุงเทพฯ: มูลนิธิสารานุกรมวัฒนธรรมไทย ธนาคารไทยพาณิชย์.

นำเครื่องแกงไปโขลกหรือบด (ด้วยเครื่องปั่น) ให้ละเอียด…พักไว้ ๒. หั่นหมูสันนอก และสามชั้นสี่เหลี่ยม ขนาด ๑. ๕ X ๑. ๕ นิ้ว เคล้าด้วยซีอิ๊วดำ แล้วตามด้วยใส่เครื่องแกงและสับปะรดลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากัน หมักไว้ ๑ ชั่วโมง (หรืออย่างน้อย ๒๐ นาที…เพื่อให้เครื่องปรุงเข้าเนื้อและให้หมูนิ่ม) ๓. นำหมูที่หมักไว้มาใส่ลงในหม้อหรือกระทะก้นลึก ใส่น้ำเล็กน้อย ตั้งไฟใช้ไฟกลาง (เพื่อรวนให้น้ำมันของหมูออกมา พยายามพลิกไปมา คนให้เข้ากัน อย่าให้เนื้อหมูติดหม้อ)…ผัดจนกว่าหมูตึงตัว (พอหมูเริ่มสุกหน่อย) ๔. จากนั้นเติมน้ำลงในหม้อพอท่วมหมู ตั้งไฟใช้ไฟกลางๆ ถึงสูง …จนน้ำเดือด (แปบเดียว) ๕. แล้วปรับการตั้งไฟใช้เป็นไฟอ่อนๆ (เบอร์ ๑๐ ปรับเป็นเบอร์ ๓) ปิดฝาไว้…คอยเติมน้ำด้วย (คือต้องดูเติมน้ำให้ท่วมหมูเสมอ เพราะว่าเดี๋ยวก้นหม้อจะไหม้) เคี่ยวไปเรื่อยๆ…จนหมูนิ่มได้ที่ ๖. ใส่ขิงซอย กระเทียมปอกเปลือกเป็นกลีบ และผงแกงฮังเลหรือผงกะหรี่ลงไป ๗. ปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียก เกลือ และน้ำตาลเล็กน้อย ชิมรสให้ได้ ๓ รส เปรี้ยว เค็ม เผ็ด ถ้าอ่อนเค็มให้เติมเกลือ…เมื่อใส่ส่วนผสมครบแล้วก็คนให้เข้ากัน และปิดฝา ๘. เคี่ยวต่อ…พอเดือดสักพัก ปิดไฟ (จะเห็นว่าน้ำแกงฮังแลที่ได้จะแห้งลงนิดหนึ่งและมีความเข้มข้นขึ้น) ยกลงพร้อมเสิร์ฟ *** สูตรนี้ สำหรับ ๓-๔ คนรับประทาน แกงฮังเลที่ได้จะมีรสชาติเข้มข้นอร่อยพอดี…โดยที่ไม่ต้องพึ่งผงปรุงรสใดๆเลย *** เคล็ดลับความอร่อย ๑.

แกงฮังเล หรือ แกงฮินเล อาหารเหนือที่ได้รับอิทธิพลมาจากประเทศพม่า

หั่นเนื้อหมูสันคอและหมูสามชั้นเป็นชิ้น ขนาด 1. 5 x 1. 5 นิ้ว 2. โขลกเครื่องแกงรวมกันให้ละเอียด 3. ผสมเครื่องแกง ผงฮังเล สับปะรด และเนื้อหมู คลุกเคล้าให้เข้ากัน หมักไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง 4. นำหมูที่หมักไว้มาตั้งไฟ ใส่น้ำเล็กน้อย ผัดจนกว่าหมูตึงตัว เคี่ยวต่อ คอยเติมน้ำเรื่อยๆ จนหมูนิ่มได้ที่ 5. ใส่น้ำอ้อยป่น น้ำมะขามเปียก ใส่กระเทียม และขิงซอย คนให้เข้ากัน เคี่ยวต่อ 6. ใส่ถั่วลิสงคั่ว พอเดือดสักพัก ปิดไฟ ลองทำแกงฮังเลทานกันดูนะค่ะ เคล็ดลับในการปรุง/เลือกส่วนผสม เคล็ดลับในการปรุง การคั่วเครื่องแกง ใช้ไฟปานกลาง ใช้เนื้อกระท้อนแทนมะขามเปียกได้ ให้รสชาติเปรี้ยว และมีกลิ่นหอม เคล็ดลับในการเลือกส่วนผสม หมูสามชั้น ควรเลือกที่มันไม่หนาเกินไป หรือเลือกใช้ซี่โครงหมูแทน ก็ได้ ที่มา

  • ไก่ ผัด ซอส มะขาม
  • ร้าน สัก ศรีนครินทร์ บางนา
  • Nike air force 1 mid ราคา shoes
  • รูปแบบ ตัวอย่างหนังสือราชการ – Chiang Mai University Business School
  • แกงฮังเล | boomrak
  • ความ หมาย ของ วรรณศิลป์

mae_amporn01 56 Following 71 Followers 195 Likes Line:@map239 Fanpage:น้ำพริกแกงตราแม่อำพรเชียงใหม่ Shopee:

แกงฮังเล - Signature Dish

แกงฮังเล บางแห่งก็เรียกว่า แกงฮินเล หรือ แกงฮันเล มีอยู่ ๒ ชนิด คือ แกงฮังเลม่าน และ แกงฮังเลเชียงแสน เชื่อกันว่าแกงฮังเลเป็นอาหารที่ได้รับอิทธิพลมาจากพม่าในสมัยอดีต จากการศึกษาของอุบลรัตน์ พันธุมินทร์ จากแหล่งข้อมูลพุกาม พบว่าแกงที่ชาวพม่าเรียกว่า " ฮินแล " หรือ " ฮังแล " นั้นเป็นแกงอย่างเดียวกับที่ชาวล้านนาเรียกว่า " แกงโฮะ " ส่วนแกงอย่างที่ชาวล้านนาเรียก " ฮินแล " หรือ " ฮังแล " นั้น ชาวพม่าเรียก " แวะตาฮีน " ซึ่งแปลว่าแกงหมู แหล่งที่มา:

สนใจลงโฆษณา ติดต่อได้ที่ Email:. ภาพถ่ายที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อของวัฒนธรรม ด้าน อาหาร ภาค เหนือ 10 อาหารเหนือห้ามพลาด: Food Guide Thailand นอกจากการดูข้อมูลเกี่ยวกับบทความนี้แล้ว 10 อาหารเหนือห้ามพลาด: Food Guide Thailand คุณสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมด้านล่าง คลิกที่นี่เพื่อดูข้อมูลใหม่เพิ่มเติม คำหลักที่เกี่ยวข้องกับวัฒนธรรม ด้าน อาหาร ภาค เหนือ #อาหารเหนอหามพลาด #Food #Guide #Thailand. แกงเหนือ, ลู่, ลาบเหนือ, น้ำพริก, น้ำพริกหนุ่ม, น้ำพริกอ่อง, ไข่ปาม, แกงโฮะ, ข้าวซอย, แกงฮังเล, น้ำเงี้ยว, อาหารล้านนา, Food Guide Thailand, อาหาร, กับข้าว, กับแกล้ม, เมนูอาหาร, อาหารไทย, อาหารแนะนำ, อาหารยอดนิยม, อาหารภาคเหนือ, เมนูอาหารภาคเหนือ, อาหารประจำภาค, อาหารประจำภาคเหนือ, เมนูอาหารประจำภาค, เมนูอาหารประจำภาคเหนือ, อาหารเหนือห้ามพลาด, เมนูอาหารเหนือห้ามพลาด, อาหารสี่ภาค, อาหารพื้นบ้าน, อาหารพื้นเมือง, อาหารท้องถิ่น, อาหารพื้นบ้านภาคเหนือ, อาหารพื้นเมืองภาคเหนือ, อาหารท้องถิ่นภาคเหนือ, เมนูล้านนา, เมนูอาหารล้านนา. 10 อาหารเหนือห้ามพลาด: Food Guide Thailand. วัฒนธรรม ด้าน อาหาร ภาค เหนือ. เราหวังว่าเนื้อหาบางส่วนที่เราให้ไว้จะเป็นประโยชน์กับคุณ ขอบคุณมากสำหรับการดูบทความของเราเกี่ยวกับวัฒนธรรม ด้าน อาหาร ภาค เหนือ Edsel Basil Edsel Basil เป็นบล็อกเกอร์ที่หลงใหลในการแบ่งปันความรู้และประสบการณ์การเดินทางและการรับประทานอาหารของเขา ขณะนี้กําลังดูแลเว็บไซต์ Chinawallwhitefish หัวข้อในเว็บไซต์ของเรารวมถึงโรงแรมแห่งชาติร้านอาหารและประสบการณ์การเดินทางและข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ที่เว็บไซต์ของเรา คุณจะพบข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อของโรงแรมร้านอาหารการท่องเที่ยวอาหารไทยและอื่น ๆ

แกงฮังเลมี 2 ชนิด คือ แกงฮังเลม่าน และ แกงฮังเลเชียงแสน เชื่อกันว่าเป็นอาหารที่ได้รับอิทธิพลมาจากพม่า สำหรับแกงฮังเลเชียงแสนจะแตกต่างตรงที่มีถั่วฝักยาว มะเขือยาว พริกสด หน่อไม้ดอง งาขาวคั่ว เพิ่มเข้ามา (รัตนา พรหมพิชัย, 2542, หน้า 490) และใช้เป็นส่วนผสมของแกงโฮะ (เทียนชัย สุทธนิล, สัมภาษณ์, 19 มิถุนายน 2550) ส่วนผสม 1. เนื้อสันคอหมู 300 กรัม 2. เนื้อหมูสามชั้น 200 กรัม 3. น้ำอ้อยป่น 2 ช้อนโต๊ะ 4. น้ำมะขามเปียก 3 ช้อนโต๊ะ 5. ขิงซอย 1/2 ถ้วย 6. กระเทียม 1/2 ถ้วย 7. ถั่วลิสงคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ 8. สับปะรด 2 ช้อนโต๊ะ 9. ผงฮังเล 2 ช้อนโต๊ะ เครื่องแกง 1. พริกแห้ง 7 เม็ด 2. พริกขี้หนูแห้ง 4 เม็ด 3. หอมแดง 3 หัว 4. กระเทียม 20 กลีบ 5. ตะไคร้ซอย 2 ช้อนโต๊ะ 6. ข่าซอย 1 ช้อนโต๊ะ 7. เกลือ 1 ช้อนชา 8.

แกงฮังเล | foodsofthailand

ใส่ขิงซอยลงไป แล้วใช้ไม้พายคนผสมให้ทุกอย่างเข้ากัน จากนั้นผิดฝาหม้อไว้ ตั้งไฟอ่อนเพื่อให้หมูอ่อนนุ่ม ประมาณ 20 นาทีน้ำแกงเริ่มงวดลง ให้เติมน้ำและปิดฝาจนน้ำแกงงวดอีกครั้ง ระหว่างนั้นใช้ไม้พายค่อย ๆ ขูดก้นกระทะรอบ ๆ ด้าน ป้อนกันเครื่องแกงไหม้ติดก้นกระทะค่ะ (ใช้ไม่พายทำให้ส่วนผสมไม่เละค่ะ) 5. พอน้ำเริ่มงวดจนได้ที่ดีแล้ว ใช้ไม้พายคนส่วนผสมทุกอย่างให้เข้ากัน พร้อมตักเสิร์ฟได้ สุดท้ายเตรียมข้าวเหนียวข้าวสวยรอเลยค่า เรียบร้อยแล้วค่ะ แกงฮังเล สูตรคนบ้านทุ่งคิดถึงล้านนา ใช้วัตถุดิบหาง่าย ลดทอนขั้นตอนดั้งเดิมไปพอสมควร แต่คงครบรสเปรี้ยว หวาน มัน เค็ม เผ็ด หมูนุ่มเด้ง ช้อนตักเบา ๆ ก็เข้าเนื้อ เน้นน้ำแกงแบบขลุกขลิกข้น ๆ จิ้มข้าวนึ่งติดดี กินกับข้าวสวยก็อิ่มหมีพลีมันขน๊าด ใครสนใจหรือคิดฮอดเมืองเหนือ ลองยะดูเน้อ ล้ำแต้ ๆ เจ้า

การคั่วเครื่องแกง ใช้ไฟปานกลาง ๒. สามารถใช้เนื้อกระท้อนแทนมะขามเปียกได้ ให้รสชาติเปรี้ยว และมีกลิ่นหอม ๓. หมูสามชั้น ควรเลือกที่มันไม่หนาเกินไป ๔. สามารถเลือกใช้เป็นซี่โครงหมู เนื้อสันคอหมู หรือเนื้อหมูสันนอก (แทนหมูสามชั้นก็ได้) หรือจะเปลี่ยนมาใช้เป็นเนื้อไก่ก็ได้ ลองใช้เป็นเนื้อส่วนปีกกลางไก่ ก็นิ่มอร่อยรสจัดจ้านเช่นกัน รับรองไม่ผิดหวังครับ แหล่งที่มา: สูตรอาหารไทย. /สูตรแกงฮังเล รสอร่อยเข้มข้นติดใจ ทำง่ายกว่าที่คิด. สืบค้นจาก [๘ มกราคม ๒๕๖๒]